เที่ยวอิตาลี ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี Autumn Italy - Grazie Travel

เที่ยวอิตาลี ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี Autumn Italy

by Grazie Travel

อิตาลีคือประเทศอันเป็นจุดหมายปลายทางแรกๆ ของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต่างใฝ่ฝันว่าจะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต เนื่องจากเสน่ห์ของอิตาลีอันเหลือล้น และมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละเมืองนั่นเอง ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้มาเยือนได้อย่างครบรส ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของศิลปะ สิ่งก่อสร้างอันมีเอกลักษณ์และใหญ่โต ความโรแมนติกดังภาพวาดของทัศนียภาพอันงดงาม และธรรมชาติที่น่าหลงไหลของแต่ละฤดู และที่เราจะพลาดไม่ได้เลยคือฤดู ใบไม้เปลี่ยนสี นั่นเองค่ะ สวย อากาศดี เป็นช่วงที่คนไทยแห่กันไปเที่ยวเยอะที่สุดเลยละค่ะ ไปดูเลยค่ะว่ามีที่ไหนกันบ้าง

1.โคโม่

ทะเลสาบโคโม(Lake Como) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 และได้รับการขนานนามว่าสวยที่สุดในอิตาลี  สามารถชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติ และเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีอย่างเทือกเขาแอลป์อีกด้วย และยังรายล้อมทะเลสาบมีเมืองที่ชื่อว่า โคโม่ ที่มีชื่อเดียวกับทะเลสาบด้วย โดยมีความยาวโดยรอบทะเลสาบประมาณ 160 เมตร และมีพื้นที่โดยรอบประมาณ 146 ตารางกิโลเมตร ลักษณะเป็นรูปตัว Y คว่ำ  และมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่รอบทะเลสาบมากมาย   แต่เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันจะมีอยู่ 4-5 แห่ง  เราสามารถเห็นความงดงามของธรรมชาติที่นี่ และความงามของเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมของเทือกเขาแอลป์ได้ตลอดทั้งปี และสวยที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

2.โรม

อมตะอันเป็นนิรันดร์ในอิตาลี  คงจะเป็นที่ใดไปไม่ได้นอกจากกรุงโรม  อันเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน  และเป็นศูนย์กลางอำนาจจักรวรรดิโรมันในอดีต  รวมความเจริญทางสถาปัตยกรรม  ศิลปะและวัฒนธรรมมาหลายศตวรรษ  ความยิ่งใหญ่ของโรมแผ่ขยายออกไปทุกทิศทาง  มีอิทธิพลยิ่งต่อความเป็นยุโรปทุกวันนี้อย่างปฏิเสธได้ยาก  ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกันอันเป็นหัวใจของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกในปัจจุบันด้วย แม้ว่าจะเป็นเมืองหลวงก็ยังมีต้นไม้ แทรกแทรงไปทุกพื้นที่ ต้องยอมรับว่าคลาสสิคมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากอากาศจะดีแล้ว ยังได้เห็นสีสันต้องต้นไม้แปลกตาไปอีกด้วย

3.ชิงกัว เตเร่

หมู่บ้านชิงกัว เตเร่(Cinque Terre) เป็นเมืองเก่าแก่ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่ในแคว้น Liguria ซึ่งเป็นแคว้นที่เล็กที่สุดของประเทศอิตาลี ประกอบด้วยหมู่บ้านน่ารักๆ 5 หมู่บ้านที่สร้างอยู่บนหน้าผาและชายเขา เป็นสถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกแคว้น Liguria เป็นที่ตั้งของ Cinque Terre นั้นถูกกั้นด้วยเทือกเขาแอลป์ และเทือกเขาอัลไพน์ที่อีกด้านหนึ่งนั่นติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากทำเลที่ตั้งอันเป็นทำเลทองนี้เองทำให้สภาพอากาศของทั้ง 5 หมู่บ้านใน Cinque Terre นั้นดีตลอดทั้งปี 

4.เวนิส

เมืองเวนิส จุดหมายปลายทางอันสุดโรแมนติกของเหล่าคู่รัก เป็นเกาะที่อยู่ห่างออกไปในทะเลเอเดรียติก เกิดจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เป็นเมืองที่มีคลองมากที่สุดในโลก ด้วยความสวยงามราวกับเป็นภาพที่อยู่ในความฝัน ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเกาะแห่งนี้ ยกให้เมืองเวนิส เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก เวนิสเป็นเมืองที่มีการใช้คลองสำหรับการคมนาคมทำให้เรือเป็นพาหนะเป็นหลัก เมืองในฝันแห่งนี้จึงไม่มีความวุ่นวายของมลพิษหรือเสียงดังจากรถยนต์ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองหรือจะนั่งเรือชมเมืองด้วยความรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริงมีอาคารบ้านเรือน จวบจนร้านค้าต่างๆตั้งอยูริมคลอง มีเรือพายให้บริการในการเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ของเมือง มีบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามวิจิตรด้วยนะคะ

5.โดโลไมต์

ความงดงามของเทือกเขา Dolomites ได้รับการยกย่องให้เป็นเทือกเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากการสภาพของภูมิประเทศของเทือกเขาที่มียอดเขาต่าง ๆ สูงเสียดฟ้า ทรงสวยแปลกตา และมีหุบเขาหลายแห่ง แวดล้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ในฤดูต่างๆก็จะสวยไม่เหมือนกัน ช่วงฤดูหนาวก็จะมีหิมะขาวโพลน ฤดูร้อนก็จะเป็นสีเขียวขจีสวยงาม ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีสีสันต่างๆ เหลือง แดง เขียว สวยมาก ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ที่ทอดตัวอยู่ในอิตาลีตอนเหนือ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอิตาลีที่มียอดเขาสูงเสียดฟ้า หน้าผาสูงชัน และเป็นหุบเขาที่แคบลึก สลับกัน ที่จะทำให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์โดโลไมต์ในช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดด้วยกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ตะลึงพรึงเพริดคนที่คุณรักด้วยวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แสนโรแมนติกที่น่าจดจำ ดื่มด่ำกับศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยประเพณีและตำนานโบราณ ค้นพบเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยที่สุดใน Dolomites